ปี 2025 ผู้พัฒนารถ EV ล้วนแต่แข่งกันพัฒนาแบตที่สามารถรองรับการชาร์จไฟเร็วขึ้น รวมทั้งยังมีการพัฒนาที่ชาร์จให้จ่ายไฟได้มากขึ้นเช่นกัน เพราะเป็นที่รู้กันว่ารถ EV หากชาร์จไฟช้าผู้ใช้งานจะประสบปัญหาในการเติมไฟ และอาจจะต้องรอคิวการชาร์จนานเกินไป
แต่มันก็จะส่งผลเสีย เพราะว่ามันมีความเสี่ยงที่แบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เพราะล่าสุดในบทวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมและประสบการณ์ของเจ้าของรถชี้ให้เห็นว่าความสะดวกของการชาร์จเร็วอาจต้องแลกมาด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ลดลงอย่างมาก จึงเกิดคำถามเกี่ยวกับความทนทานในระยะยาวและการรับประกัน
การชาร์จเร็วพิเศษ เช่นเดียวกับการชาร์จโทรศัพท์มือถือ จะทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานสั้นลง แม้ว่าหลายคนจะไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับขอบเขตของผลกระทบก็ตาม ความกังวลนี้ทวีความรุนแรงขึ้นจากต้นทุนการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สูง ซึ่งอาจมีราคาครึ่งหนึ่งของราคารถยนต์ใหม่หรืออาจเกินมูลค่าคงเหลือของรถยนต์ด้วยซ้ำ สิ่งนี้ทำให้เจ้าของรถต้องเลือกระหว่างการเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนรถทั้งคัน

คนขับเรียกรถโดยสารซึ่งพึ่งพาการชาร์จเร็วพิเศษอย่างมากเพื่อยืดเวลาการใช้งานสูงสุด ได้สังเกตเห็นว่าการชาร์จเร็วบ่อยครั้งทำให้แบตเตอรี่ “เสื่อม” เร็วขึ้น จากการสำรวจล่าสุดพบว่าสำหรับยานพาหนะที่เรียกรถโดยวิ่งระยะทางมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อวันและใช้ระบบชาร์จเร็วพิเศษมากกว่า 70% ของเวลา สุขภาพของแบตเตอรี่อาจลดลงจาก 100% เหลือ 85% ภายใน 2 ปี โดยอัตราการเสื่อมสภาพจะเพิ่มขึ้น การวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิงหัวแสดงให้เห็นว่าแบตเตอรี่ที่ใช้ระบบชาร์จเร็วพิเศษเกิน 120kW บ่อยครั้งอาจทำให้มีอายุการใช้งานสั้นลง 40% เมื่อเทียบกับการชาร์จช้า
โดยผู้พัฒนารถ EV กำลังหาวิธีที่จะรักษาสมดุลระหว่างความเร็วในการชาร์จและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ความก้าวหน้าทางเทคนิคได้แก่ ระบบการจัดการความร้อนที่ปรับปรุงใหม่เพื่อควบคุมอุณหภูมิของแบตเตอรี่ระหว่างการชาร์จเร็ว และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ที่ปรับปรุงใหม่พร้อม “โหมดป้องกันการชาร์จเร็ว” ที่ควบคุมพลังงานตามสถานะการชาร์จของแบตเตอรี่ ส่วนสถานีชาร์จอัจฉริยะยังออกแบบมาเพื่อปรับการไหลของกระแสไฟโดยอัตโนมัติระหว่างกระบวนการชาร์จ
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เจ้าของรถจำกัดการชาร์จเร็วไม่เกิน 40% ของเซสชันการชาร์จทั้งหมด และให้ความสำคัญกับการชาร์จช้าเมื่อมีเวลา นอกจากนี้ ยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงการชาร์จแบบเร็วพิเศษเมื่อแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 10% หรือมากกว่า 90% ของสถานะการชาร์จ เนื่องจากการชาร์จในช่วงดังกล่าวอาจทำให้เกิดความเสียหายกับแบตเตอรี่มากขึ้น

ที่มา Carnewschina