ในงาน Technology Day ประจำปี 2025 GAC Toyota ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Toyota Motor Corporation (TMC) และ Guangzhou Automobile Group Co., Ltd. (GAC) ได้กำหนดกลยุทธ์เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ และระบบขับคลื่อนอัจฉริยะ โดยเป็นความร่วมมือกับ Huawei, Xiaomi และ Momenta
การร่วมมือครั้งนี้ เพื่อเปิดตัวแพลตฟอร์มยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ที่จะถูกนำไปสร้างเป็นรถ EV และ ไฮบริด รวมทั้งมีการพัฒนาระบบ AI ภายใต้โครงการ “China R&D 2.0”
แพลตฟอร์ม BEV ใหม่ของ Toyota ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง โดย bZ3X ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มนี้ และยังสามารถปรับแต่งได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น BEV, PHEV และ REEV นอกจากนี้ยังสามารถสร้างรถที่มีขนาดใหญ่ถึง 5,300 มม. ได้ โดยรถรุ่นแรกบนแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งเป็นรถเก๋ง bZ7 ขนาดกลางถึงใหญ่ระดับพรีเมียม จะมาพร้อมกับ LiDAR และมีกำหนดเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2026
นอกจากนี้ Toyota จับมือเป็นพันธมิตรด้าน AI กับ Xiaomi ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายแรกร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก ด้วย bZ7 ที่มีการใช้งานอุปกรณ์อัจฉริยะของ Xiaomi เช่นแท็บเล็ตและลำโพงอัจฉริยะ จะรวมเข้ากับรถของค่าย Toyota นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือของ Huawei เพื่อนำระบบ HarmonyOS และผู้ช่วย AI มาใช้งาน
bZ7 จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกของ Toyota ที่ใช้ HarmonyOS 5.0 ของ Huawei ซึ่งผสานเข้ากับชิป Kirin และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งทำให้เข้ากันได้กับระบบนิเวศดิจิทัลของจีนได้ดีขึ้นและประสิทธิภาพในรถยนต์ที่เร็วขึ้น นอกจากนี้ Toyota และ Huawei ยังร่วมกันพัฒนาผู้ช่วยเสียง AI รุ่นใหม่ร่วมกับ Tencent ซึ่งสามารถจดจำผู้ใช้แต่ละรายและจัดการระบบรถยนต์ได้ล่วงหน้า ผู้ช่วยดังกล่าวจะพัฒนาจากคำสั่งแบบพาสซีฟไปสู่ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะที่อิงตามพฤติกรรมภายในปี 2028
bZ3X จะได้รับการอัปเดตด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ 6.0 ของ Momenta สำหรับการช่วยเหลือผู้ขับขี่ ซึ่งนำเสนอคุณสมบัติใหม่เกือบ 50 รายการ โดยออกแบบมาเพื่อทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมการขับขี่ที่ซับซ้อน รองรับอินพุตที่อิงตามเสียงและท่าทาง และเปิดใช้งานพฤติกรรมการทำนายโดยอิงจากข้อมูลที่ผ่านการฝึกด้วยการจำลอง ในอนาคตจะมีการนำการจำลองสถานการณ์แบบเรียลไทม์และการขับขี่อัตโนมัติแบบโต้ตอบกับผู้โดยสารในรถมาใช้
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขับขี่อัตโนมัติในระดับที่สูงขึ้น โดย Toyota ตั้งเป้าที่จะผสานปัญญาประดิษฐ์ในห้องโดยสาร เข้ากับระบบช่วยเหลือการขับขี่ ภายในปี 2028 รุ่นต่างๆ จะมีเซ็นเซอร์ที่วิเคราะห์ท่าทางของผู้ขับขี่ ความเหนื่อยล้า และทิศทางการมอง ซึ่งจะสร้างระบบวงจรปิดที่พฤติกรรมของรถยนต์จะปรับตัวตามสภาพของผู้ขับขี่แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ จะมีการนำแพลตฟอร์มควบคุมแชสซีดิจิทัลใหม่มาใช้ ซึ่งมีระบบกันสะเทือนแม่เหล็กไฟฟ้า SDC และระบบกันสะเทือนถุงลมแบบสองห้อง ระบบนี้ช่วยลดการแกว่งของตัวถังลง 6% ลดแรงกระแทกจากการเบรกลง 50% และปรับปรุงความสะดวกสบายในการขับขี่และการควบคุมที่ความเร็วสูงได้อย่างมาก โดย การวิจัยและพัฒนาในประเทศจีน 2.0″ ที่ Toyota จะออกแบบและพัฒนารถยนต์ให้กับทีมงานที่เป็นวิศวกรชาวจีนเช่น Camry, Sienna และ Highlander เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าในประเทศจีนเป็นอันดับแรก
ที่มา Carnewchina