Mazda มาช้าเกินไปสำหรับการเปิดตัวรถไฟฟ้า MX-30 ทำให้มันไม่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยมันหยุดขายไปเมื่อปี 2023 เพราะขายไม่ดี ทำให้ล่าสุดดูเหมือนว่าทาง Mazda จะมองเห็นแนวทางใหม่ เพราะก่อนหน้านี้มีการรายงายยอดขายรถโดยรวมของ Mazda ทำออกมาดี
ทำให้ล่าสุดส่วนหนึ่ง ในการให้สัมภาษณ์ของ มาซาฮิโระ โมโร ซีอีโอของ Mazda กับ Automotive News ได้กล่าวว่ารถยนต์ ICE ยังมีอนาคตอีกยาวไกลในอเมริกา แม้จะสิ้นสุดทศวรรษนี้แล้ว รถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบดั้งเดิมและรุ่นไฮบริดอ่อนจะมีส่วนแบ่งการขายประจำปีประมาณสองในสาม ส่วนรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และ รถยนต์ไฟฟ้าจะมีส่วนแบ่งการขายที่เหลืออีกหนึ่งในสาม ซึ่งหมายความว่า รถยนต์ส่วนใหญ่จะยังคงใช้เครื่องยนต์สันปดาปภายในในอีกห้าปีข้างหน้า
ลูกค้ากำลังมองหารถที่ราคาประหยัดแทนที่จะเป็นรถไฟฟ้า พวกเขากำลังมองหามูลค่าที่ดีกว่า พวกเขายังคงมองหาเครื่องยนต์สันดาปภายในที่เชื่อถือได้ แม้ว่าทาง Mazda จะสามารถทำให้ทุกอย่างเป็นไฟฟ้าได้ รวมถึงไฮบริดด้วย แต่เมื่อพิจารณาจากลูกค้าในสหรัฐอเมริกา พวกเขากำลังมองหารถยนต์เครื่องสันดาปที่เชื่อถือได้และราคาไม่แพงมากกว่า
โดย CEO ของ Mazda อ้างถึงรุ่นระดับเริ่มต้นเป็นหลัก โดยเฉพาะ Mazda 3 และ CX-30 โดยเขาเชื่อว่าการเติบโตของ EV ในสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าในอนาคตระยะยาวมันก็คงหนีไม่พ้นต้องใช้รถ EV ท้งหมด แต่ก็น่าจะใช้เวลาอีกนาน Mazda มีเวลาที่จะพัฒนาระบบ EV และ แบตของค่ายเพื่อวิ่งได้ระยะทางไกลและใช้เวลาชาร์จน้อยลง รวมทั้งทาง Mazda ยังคงมีพัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตต ด้วย

ที่มา Motor1