อาจไม่มี Corvette ในจีนอีกต่อไป เพราะภาษีใหม่ทำให้รถนำเข้าจากอเมริกาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในจีน

หลังจากอเมริกาประกาศสงครามการค้ากับทั่วโลก ทำให้หลังจากนั้น รัฐบาลจีนประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม 34% สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากอเมริกาทั้งหมด รวมถึงยานยนต์ เพื่อตอบโต้ต่อนโยบายภาษีศุลกากรล่าสุดที่รัฐบาลทรัมป์นำมาใช้

มาตรการตอบโต้ดังกล่าว ซึ่งกำหนดจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 เมษายนนี้ จะทำให้ต้นทุนของรถสปอร์ตที่ผลิตในอเมริกา เช่น Corvette C8 และ Mustang 5.0 ลิตรรุ่นใหม่สูงขึ้นอย่างมาก อัตราภาษีรวมของ Corvette C8 Z06 คาดว่าจะสูงถึง 200% ส่งผลให้ราคาในจีนพุ่งสูงถึง 220,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งยังไม่รวมกำไรของตัวแทนจำหน่าย

ภาษีดังกล่าวเคยปรับขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อรัฐบาลจีนจัดเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% สำหรับรถยนต์ที่ผลิตในอเมริกาที่มีเครื่องยนต์ใหญ่กว่า 2.5 ลิตร นอกจากนี้ ภาษีเพิ่มเติมดังกล่าวยังใช้กับรถหรูสัญชาติเยอรมันที่ผลิตในสหรัฐฯ อีกด้วย รวมถึง BMW X6, X7 และ Mercedes-Benz GLS-Class ซึ่งเป็นรถรุ่นที่มียอดขายสูงสุดในตลาด SUV หรูของจีน ในปี 2024 Mercedes-Benz GLS ขายได้ 13,985 คันในจีน อยู่ในอันดับสอง ขณะที่ BMW X7 ขายได้ 7,331 คัน อยู่ในอันดับสาม

ราคาของ Ford F-150 ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาษีใหม่เช่นกัน แต่ยอดขายในจีนก็มีแนวโน้มลดลงแล้ว โดยขายได้ 4,954 คันในปี 2023 ลดลงเหลือเพียง 2,227 คันในปี 2024 ซึ่งลดลงถึง 50% นอกเหนือจากราคาแล้ว การลดลงนี้ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรถออฟโรดหรูของจีน เช่น Yangwang U8 ของ BYD และ Shanhai Pao ของ GWM ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน ซึ่งด้วยสงครามการค้าด้วยการขึ้นภาษีอาจจะทำให้ค่ายรถจากอเมริกาที่ไม่ได้ประกอบรถในจีนอาจจะต้องปิดตัวไป

ที่มา Carnewschina