แผนการขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Acura ที่จะรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ 60 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030 รายงานเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่าแบรนด์ดังกล่าวกำลังเปลี่ยนแนวทางเกี่ยวกับระบบส่งกำลังแบบไฮบริดและอาจนำระบบดังกล่าวกลับมาใช้อีกครั้งในเร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้ Acura เคยประกาศแผนที่จะเลิกผลิตรถยนต์ไฮบริดโดยสิ้นเชิงในครั้งนี้ และจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดแทน Honda ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Acura ได้ประกาศเป้าหมายที่จะจำหน่ายเฉพาะรถยนต์ที่ปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ภายในปี 2040 ซึ่งรวมไปถึงยอดขายของ Acura ด้วย
แผนงานโดยรวมนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่เส้นทางที่จะไปสู่แผนงานดังกล่าวนั้นยังคงไม่แน่นอน “แผนระยะยาวของเราคือการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด แต่เรามีความยืดหยุ่นมากกับเส้นทางนั้น” ไมค์ แลงเกล รองประธานฝ่ายขายของ Acura ในอเมริกากล่าว
แม้ว่าแลงเกลจะไม่ยืนยันแผนงานใด ๆ ในทันทีที่จะนำระบบส่งกำลังแบบไฮบริดมาสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Acura แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้นี้ “มันอาจเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยว แต่เป้าหมายสุดท้ายยังคงเหมือนเดิม” เขากล่าวกับสำนักข่าวดังกล่าว
การตัดสินใจยกเลิกแผนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าล้วนในอนาคตได้กลายเป็นประเด็นที่ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่มักทำกัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วฟอร์ดได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้าแบบขยายระยะทางแทนที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
ในส่วนของ Acura แลงเกลได้ยืนยันกับสำนักข่าวว่าเป้าหมายของแบรนด์ในการขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบขยายระยะทาง 60 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นทศวรรษนี้ถือว่าล้าสมัยไปแล้ว “ยังคงมีตลาดขนาดใหญ่ และเรากำลังเปิดตัวรุ่นอื่น ๆ เพิ่มเติม แต่ผมจะไม่รับประกันว่าจะมีตัวเลขออกมา เรามีความยืดหยุ่นกับเรื่องนี้” เขากล่าว
แม้ว่า Acura จะยังไม่มีไฮบริดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน แต่ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้เคยมีอยู่สองรุ่นในอดีต RLX Hybrid เปิดตัวสำหรับรุ่นปี 2014 และ MDX Hybrid เข้ามาเสริมในปี 2017 โดยทั้งสองรุ่นถูกยกเลิกหลังจากรุ่นปี 2020 หาก Acura ตัดสินใจที่จะเพิ่มไฮบริด กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีกลไกคล้ายคลึงกันของ Honda ก็มีให้เลือกมากมาย Accord, CR-VและCivic ล้วนนำเสนอระบบไฮบริดพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรสี่สูบและคิดเป็นส่วนใหญ่ของปริมาณการขายของแต่ละรุ่น Honda ยังวางแผนที่จะเปิดตัวเครื่องยนต์ไฮบริด 1.5 ลิตรใน Preludeใหม่ ซึ่งจะทำให้ Acura มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่เป็นไปได้อีกทางหนึ่ง
อ้างอิง Car and Driver