ข้อมูลเผยว่า Xiaomi SU7 Ultra มีแบตเตอรี่ขนาด 93.7 kWh และวิ่งได้ไกลสูงสุด 630 กม. และได้ประกาศเปิดขายล่วงหน้าแล้วที่ราคา 814,900 หยวน (ประมาณ ฿3,81x,xxx) และมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2025
โดย Xiaomi SU7 Ultra มีสี่ช่วงที่แตกต่างกัน: 520 กม., 555 กม., 600 กม. และ 630 กม. ตามลำดับ พารามิเตอร์อื่น ๆ ทั้งหมด เช่น น้ำหนัก 2,360 กก. และความจุของแบตเตอรี่ยังคงเหมือนเดิม
SU7 Ultra ได้รับการยกย่องว่าเป็น “รถยนต์สี่ประตูที่ผลิตจำนวนมากที่เร็วที่สุดในโลก” โดย SU7 Ultra ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า V6 หนึ่งตัวและ V8 สองตัว ชุด V6 บนเพลาหน้าส่งกำลังได้มากถึง 288 กิโลวัตต์ ในขณะที่ V8 นั้นมีหนึ่งตัวที่ล้อหลังแต่ละล้อ ส่งกำลังได้ 425 กิโลวัตต์ ทำให้ SU7 Ultra มีกำลังรวม 1,138 กิโลวัตต์ (1,548 แรงม้า) เพียงพอที่จะทำให้รถทำเวลา 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 1.98 วินาที 0-200 กม./ชม. ได้ภายใน 5.86 วินาที และความเร็วสูงสุดกว่า 350 กม./ชม. โดยใช้เวลาเพียง 9.23 วินาทีในการเคลื่อนตัวจากจุดหยุดนิ่งไปถึง 400 เมตร
Ultra มีลักษณะคล้ายกับ SU7 Max แต่มีขนาดใหญ่กว่า โดยมีขนาด 5115/1970/1465 มม. แต่ฐานล้อเท่ากันที่ 3000 มม. ความแตกต่างของขนาดส่วนหนึ่งเกิดจากชุดแต่งรอบคัน ส่วนที่เห็นได้ชัดที่สุดคือสปอยเลอร์หลังซึ่งมีความกว้าง 1560 มม. แพ็คเกจแอโรไดนามิกสามารถสร้างแรงกดได้ถึง 285 กก. เจ้าหน้าที่ระบุว่ารถใหม่นี้มีชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ 17 ชิ้น
แม้จะใช้คาร์บอนไฟเบอร์ แต่ SU7 Ultra ยังคงมีน้ำหนักมากกว่ารุ่น Max ที่ 2,360 กก. เทียบกับ 2,205 กก. รุ่น Ultra มีล้อสีดำแบบ 5 ก้านคู่ใหม่พร้อมคำว่า “Ultra” เขียนอยู่ตรงกลาง ใช้เบรกเซรามิกซึ่งอ้างว่าเป็นรถสปอร์ตที่ติดตั้งที่ใหญ่ที่สุดจนถึงปัจจุบัน ที่ด้านหน้ามีคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีเหลือง 6 ลูกสูบและชุดเบรก 4 ลูกสูบที่ด้านหลัง ซึ่งสามารถหยุด SU7 Ultra จากความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในระยะ 30.8 เมตร
รถยนต์รุ่นนี้มาในสีเหลืองพร้อมไฮไลท์สีดำรอบ ๆ ฟีเจอร์สปอร์ตส่วนใหญ่ โทนสีนี้ขยายไปถึงภายในรถซึ่งมีเค้าโครงเดียวกันกับรถทั่วไป ความแตกต่างหลัก ๆ คือการเพิ่มคาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุ Alcantara นอกจากนี้ Ultra ยังมีพวงมาลัยสปอร์ตและเบาะนั่งสปอร์ตใหม่
หน้าจออินโฟเทนเมนต์มีการออกแบบ UI พิเศษและขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8295 ที่ใช้ระบบ Xiaomi HyperOS นอกจากนี้ยังมีเสียงกีฬาจำลอง 3 แบบและฟังก์ชันควบคุมแทร็กในตัว
รถยนต์คันนี้มาพร้อมกับระบบขับขี่อัจฉริยะ Xiaomi Pilot ซึ่งใช้ชิปขับขี่อัจฉริยะ Nvidia Orin X จำนวน 2 ตัวที่มีพลังประมวลผล 508 TOPS ซึ่งเป็นการตั้งค่าแบบเดียวกับในรุ่น Xiaomi SU7 Pro และ Max
Xiaomi SU7 Ultra ใช้แบตเตอรี่ CATL Qilin 2.0 ในแพ็ค 93.7 kWh มีพลังงานคายประจุสูงสุด 1,330 kW และยังสามารถจ่ายพลังงานได้มากกว่า 800 kW ที่ 20% แพ็คนี้ยังมีระบบระบายความร้อนแบบ 2 พื้นผิวและโครงสร้าง CTB (cell-to-body) รองรับอัตราการชาร์จสูงสุด 5.2C ซึ่งสามารถชาร์จเร็วจาก 10% ถึง 80% ในเวลา 11 นาที
อ้างอิง CarNewsChina