มีข่าวลือหนาหูว่า Volkswagen เตรียมส่งรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด มาบุกตลาดอเมริกา! งานนี้เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ที่ต้องการรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แม้ว่า Volkswagen จะนำเสนอระบบส่งกำลังแบบไฮบริดในประเทศอื่น ๆ แต่แบรนด์นี้ก็ไม่ได้ผลิตรถรุ่นที่ใช้น้ำมันและไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาเลย นับตั้งแต่ที่ Jetta Hybrid เลิกผลิต หลังจากรุ่นปี 2016 เมื่อต้นปีนี้ Arno Antlitz ซึ่งเป็น CFO ของ Volkswagen Group กล่าวว่าแบรนด์นี้ตั้งเป้าที่จะนำรถรุ่นไฮบริดแบบเสียบปลั๊กเข้ามาในสหรัฐอเมริกาเพื่อเชื่อมช่องว่างกับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ในระหว่างการสัมภาษณ์โต๊ะกลมที่งานแสดงรถยนต์นิวยอร์ก Kjell Gruner ซึ่งเป็นประธานและ CEO ของ Volkswagen Group of America กล่าวว่าแผนไฮบริดของแบรนด์จะใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป
Volkswagen ยังคงตั้งเป้าที่จะเปิดตัวรถไฮบริดในสหรัฐอเมริกาแต่ Gruner เปิดเผยว่าแม้ว่า VW จะเปิดตัวรถไฮบริดสองรุ่นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่จะเป็นรถไฮบริดแบบดั้งเดิมแทนที่จะเป็นแบบปลั๊กอิน “เราเชื่อว่าสำหรับตลาดนี้และผู้บริโภคที่นี่ รถไฮบริดเต็มรูปแบบคือทางออกที่ถูกต้อง” Gruner กล่าว แม้ว่ารถไฮบริดแบบปลั๊กอินจะมีข้อดีบางประการ แต่ “มันเพิ่มน้ำหนักและต้นทุนวัสดุมาก” และตลาดรถไฮบริดแบบดั้งเดิมนั้นใหญ่กว่ามาก
นอกจากนี้ Volkswagen ยังต้องการผลิตไฮบริดเหล่านี้ในอเมริกาเหนือด้วย “แน่นอนว่าการนำเข้าจากยุโรปจะเร็วกว่ามาก” Gruner อธิบาย “แต่นั่นไม่ใช่ทางออกที่เราต้องการ” Gruner ยืนยันเกือบแน่นอนว่าไฮบริดทั้งสองรุ่นจะเป็น Tiguan และ Atlas SUVs โดยกล่าวว่าบริษัทจะ “เลือกจากรุ่นที่มีจำนวนมากของเรา”
ปัจจุบัน Atlas ผลิตที่เมืองชัตตานูกา รัฐเทนเนสซี ส่วน Tiguan กำลังประกอบที่เมืองปวยบลา ประเทศเม็กซิโก โดย Tiguan รุ่นไฮบริดน่าจะมาถึงก่อน เนื่องจากแบรนด์เตรียมเปิดตัวรุ่นที่สามในปีนี้ ส่วน Atlas รุ่นไฮบริดน่าจะออกสู่ตลาดอย่างน้อย 2 ปี และ Atlas รุ่นถัดไปจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้
อ้างอิง Car and Driver