Jay Y. Lee ประธานบริษัท Samsung Electronics ได้พบกับ Lei Jun ซีอีโอของ Xiaomi ที่โรงงาน EV ของ Xiaomi ในกรุงปักกิ่ง โดยการพบกันในครั้งนี้ถือเป็นพัฒนาการสำคัญที่จะช่วยปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานของรถยนต์ไฟฟ้า
นอกจากนี้ การประชุมครั้งนี้ยังถือเป็นการพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้งสองในรอบ 7 ปี และเป็นสัญญาณของความร่วมมือที่อาจเกิดขึ้นระหว่างคู่แข่งด้านสมาร์ทโฟนในภาคส่วน EV ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
Xiaomi ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนจำหน่ายรถยนต์ SU7 ได้ 137,000 คันในปีแรก สร้างรายได้ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมแผนขยายการผลิตเป็น 350,000 คันในปี 2025 ก่อนจะขยายไปทั่วโลกภายในปี 2027 การขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้สร้างความต้องการมหาศาลสำหรับส่วนประกอบที่ระบบนิเวศของ Samsung เหนือกว่า ซึ่งรวมถึงแบตเตอรี่ขั้นสูง (Samsung SDI) จอแสดงผลในรถยนต์ ชิป AI และระบบอินโฟเทนเมนต์ (Harman International)
นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมระบุว่าการประชุมครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะดำเนินไปเกินกว่าการหารือเบื้องต้น โดย Xiaom iเป็นผู้จัดหาชิปหน่วยความจำ หน่วยความจำแฟลช NAND และจอแสดงผล OLED ของ Samsung สำหรับสมาร์ทโฟน ความร่วมมือที่มีอยู่นี้ถือเป็นรากฐานที่เป็นธรรมชาติสำหรับความร่วมมือด้าน EV
การบุกเบิกเข้าสู่ตลาดห่วงโซ่อุปทานของรถยนต์ไฟฟ้าอาจเป็นประโยชน์สำหรับ Samsung เช่นกัน ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้รายนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์หลักมาสักระยะแล้ว ตัวอย่างเช่น Samsung ไม่สามารถเตรียมชิป Exynos 2300 และ Exynos 2500 ได้ทันเวลา และ Google ยังหันกลับไปใช้ TSMC ในการผลิต Tensor G5 อีกด้วย
การขยายธุรกิจไปสู่ห่วงโซ่อุปทานยานยนต์จึงสามารถสร้างเสถียรภาพได้ บริษัทในเครือของ Samsung ร่วมกันจัดหาส่วนประกอบที่จำเป็นสำหรับ EV ยุคใหม่เกือบ 60% ทำให้กลุ่มบริษัทเป็นพันธมิตรที่เหมาะสมสำหรับเป้าหมายการผลิตอันทะเยอทะยานของ Xiaomi
แม้ว่าทั้งสองบริษัทจะยังไม่ได้ยืนยันเงื่อนไขความร่วมมือที่ชัดเจน แต่การประชุมครั้งสำคัญนี้บ่งชี้ว่าอาจมีการประกาศอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้ ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นกรณีตัวอย่างที่หายากของความร่วมมือระหว่างคู่แข่งในตลาดสมาร์ทโฟน ซึ่งเน้นย้ำว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามูลค่า 8 แสนล้านเหรียญสหรัฐกำลังสร้างพันธมิตรที่ไม่คาดคิดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและยานยนต์
อ้างอิง Gizmochina