Porsche AAS ชูโรง 4 รุ่นใหม่ใน Motor Expo 2024

ปอร์เช่ ประเทศไทย (โดย AAS) พร้อมขนทัพจัดแสดงรถยนต์สุดหรูจากสนามแข่งสู่ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 ในปีนี้ปอร์เช่เปิดตัวรถถึง 4 รุ่นใหม่ ได้แก่ ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า มาจาน (Macan) ใหม่, ไทคาน (Taycan) ที่ได้รับการปรับปรุงรอบด้าน, ปานาเมร่า (Panamera) ใหม่ และ 911 การ์เรร่า (911 Carrera) รุ่นไอคอนิคที่มีการพัฒนาปรับปรุงอย่างโดดเด่น พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์นี้

ทิม วัลโกเวี้ยก (Tim Walkowiak) ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาคปอร์เช่ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “งานมหกรรมยานยนต์หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป ในปีนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นปีที่ปอร์เช่ได้บรรลุความสำเร็จหลาย ๆ อย่าง ตั้งแต่การประกอบ Cayenne S E-Hybrid รุ่นแรกในภูมิภาคที่ส่งตรงถึงประเทศไทย ไปจนถึงการประกาศเปิดตัว ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ (Porsche Design Tower) แห่งแรกในเอเชียที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างแท้จริงในปีนี้ สำหรับปอร์เช่ ในวันนี้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้จัดแสดงยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของแบรนด์ อันได้แก่ Macan ใหม่ ที่มาในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า 100% และ Taycan ที่ได้รับพัฒนาใหม่อย่างรอบด้าน พร้อมด้วยรถสปอร์ตอีกหลายรุ่นที่โดดเด่นในบูธของเรา ที่งานมหกรรมยานยนต์ 2024 เพื่อปิดท้ายปีที่ยอดเยี่ยมนี้”

วินธร บุนนาค รักษาการกรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปอร์เช่ยังคงยึดมั่นในตำแหน่งผู้นำด้านนวัตกรรม ด้วย 911 รุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงอย่างมากมาย ทั้งในเรื่องของสมรรถนะ รูปลักษณ์ และเทคโนโลยีล่าสุด โดยมีรุ่นไฮไลต์อีก 3 รุ่นที่มาอวดโฉมร่วมกับ 911 ใหม่ ได้แก่ Taycan, Macan, และ Panamera ยนตรกรรมเหล่านี้อาจมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดล้วนมี ดีเอ็นเอ ที่มาจากนวัตกรรม, มรดกจากการแข่งรถ, และความมุ่งมั่นที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงในการสร้างสมรรถนะเพื่อการขับขี่ที่เร้าใจและสมบูรณ์แบบ”

Taycan Turbo GT ที่ทำลายสถิติในสนามแข่งถึง 3 แห่ง เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

หลังจากทำลายสถิติในสนามแข่งถึง 3 แห่งบน 3 ทวีป – ที่ ลากูน่า เซก้า ในอเมริกาเหนือ, เนือร์บวร์กริง นอร์ดชไลเฟ่อ ในยุโรป และ สนามแข่งนานาชาติ ชั่งไห่ ในเอเชีย – Taycan Turbo GT กลับมาเป็นแชมป์แห่งยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าอีกครั้งในงาน มหกรรมยานยนต์ 2024

Taycan Turbo GT ใหม่ มาพร้อมกับอินเวอร์เตอร์ที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีซิลิคอนคาร์ไบด์เป็นส่วนประกอบให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อยู่ในมอเตอร์หลัง ทั้ง 2 รุ่นมีพละกำลัง 1,034 แรงม้าเป็นมาตรฐาน แต่สามารถเพิ่มกำลังสูงสุดชั่วคราวผ่านโหมด ‘Attack Mode’ ที่ 120 กิโลวัตต์ (kW) ซึ่งสามารถทำให้มีกำลังพุ่งสูงกว่า 1,100 แรงม้า เพื่อการแซงที่รวดเร็วเป็นพิเศษ

ด้วยมาตรการผลิตยนตรกรรมที่เน้นน้ำหนักเบา Porsche จึงสามารถลดน้ำหนักของ Taycan Turbo GT ลงได้ถึง 75 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับ Taycan Turbo S ระบบกันสะเทือน Porsche Active Ride ที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับรุ่น GT ก็รวมอยู่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้งใน 2 รุ่นนี้

Taycan รุ่นอื่น ๆ จะถูกจัดแสดงที่บูธของ Porsche ในงานมหกรรมยานยนต์ 2024ด้วยเช่นกัน Porsche ได้ปรับปรุง Taycan อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยพละกำลังที่มากขึ้น ระยะทางที่ไกลขึ้น การเร่งความเร็วที่เร็วขึ้น และชาร์จไฟได้เร็วและมีความเสถียรมากขึ้น นอกจากนี้ Porsche ยังได้ปรับดีไซน์ให้คมชัด และสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในรุ่นเทอร์โบ

Taycan ทุกรุ่นมาพร้อมกับรายการอุปกรณ์มาตรฐานที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น และนำเสนอ Porsche Driver Experience รุ่นล่าสุด การแสดงผลดิจิทัลเต็มรูปแบบ, ความสามารถในการปรับแต่งที่หลากหลาย และการใช้งานที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้

การปรากฎโฉมอีกครั้งของ Macan ใหม่ ในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า 100%

หลังจากการนำเสนอในบรรยากาศสุดพิเศษของ Macan ที่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย Museum of Contemporary Art (MOCA) กรุงเทพฯ Macan ใหม่ จะได้รับการเปิดตัวครั้งแรกต่อหน้าสาธารณชนที่งานมหกรรมยานยนต์ รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) พลังงานไฟฟ้าล้วนคันแรกของ Porsche มาพร้อมกับดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา สมรรถนะที่เป็นเอกลักษณ์ของ Porsche ระยะทางการขับขี่ที่ยาวไกลขึ้น และความสะดวกสบายในการใช้งานประจำวัน ซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า Porsche ที่ต้องการรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ได้อย่างครบถ้วน

ตัวเลขเพียงอย่างเดียวก็บ่งบอกถึงสมรรถนะ E-Performance ระดับสูง Macan สามารถผลิตพละกำลังได้เพิ่มถึง 265 กิโลวัตต์ (360 แรงม้า) ขณะที่ Macan Turbo รุ่นท็อปมีพลังสูงสุดถึง 470 กิโลวัตต์ (639 แรงม้า) แรงบิดสูงสุดของทุกรุ่นมีค่าตั้งแต่ 563 นิวตันเมตร ไปจนถึง 1,130 นิวตันเมตร Macan มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 5.7 วินาที ขณะที่ Macan Turbo ทำได้ในเวลาเพียง 3.3 วินาที

Macan ใหม่ ที่มาในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า 100% ถูกสรรสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Premium Platform Electric (PPE) ที่พัฒนาใหม่ของ Porsche พร้อมพลังไฟฟ้า 800 โวลต์ การชาร์จแบบกระแสตรง (DC) สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 270 กิโลวัตต์ (kW) ซึ่งหมายความว่าในสภาวะที่เหมาะสม แบตเตอรี่สามารถชาร์จจาก 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาประมาณ 21 นาที ส่วนการชาร์จไฟแบบกระแสสลับ (AC) ที่กำลังสูงสุด 11 กิโลวัตต์ (kW) สามารถชาร์จพลังงานไฟฟ้าที่กล่องชาร์จติดผนังในบ้าน

รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV)ใหม่สามารถสะกดสายตาได้ทันทีจากเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ของ Porsche ซึ่งเชื่อมต่อกับกระจกหลังที่แบนราบ การออกแบบร่วมกันของไฟหน้ารูปแบบใหม่ที่มีไฟ Day time กลางสี่จุด และโมดูลไฟหน้าหลักที่มาพร้อมเทคโนโลยี Matrix LED แบบเลือกติดตั้งได้นั้น ทำให้ได้ดีไซน์ที่เพรียวบางและมีลุคสปอร์ตมากขึ้น ปีกหน้าที่ยกสูงตามแบบฉบับของ Porsche และลาดลงมาอย่างเด่นชัดทำให้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังดูมีความแข็งแกร่งทรงพลัง ด้านหลังโลโก้ Porsche ถูกติดตั้งไว้ที่กลางแถบไฟ 3D

ผลจากการเป็นยนตรกรรมใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จึงได้ระยะฐานล้อของ Macan รุ่นใหม่ที่ขยายมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าพื้นที่สำหรับผู้โดยสารจะกว้างขวางขึ้น และเพิ่มขนาดช่องเก็บสัมภาระใน Macan ขึ้นไปอีก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง ความจุที่อยู่ด้านหลังเบาะที่นั่งหลังสามารถรองรับได้สูงสุดถึง 540 ลิตร นอกจากนี้ยังมี ‘frunk’ ซึ่งเป็นช่องเก็บสัมภาระที่ใต้ฝากระโปรงหน้ารถโดยมีความจุ 84 ลิตรอีกด้วย

ภายในห้องโดยสารมีความเป็น Porsche อย่างชัดเจน ความกว้างของห้องโดยสารถูกเน้นย้ำด้วยแผงสีดำที่ออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกัน นอกจากอินเตอร์เฟซดิจิทัลสมัยใหม่ เช่น จอแสดงผลการวัดผลโค้งขนาด 12.6 นิ้วแล้ว ยังมีองค์ประกอบการควบคุมแบบอนาล็อกบางส่วนสำหรับช่องระบายอากาศและการควบคุมเครื่องปรับอากาศอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแถบไฟ LED ที่ถูกรวมเข้าไปในห้องขับขี่และประตู ซึ่งทำหน้าที่ทั้งเป็นแสงเพื่อสร้างบรรยากาศและแสงเพื่อแสดงการสื่อสาร

911 รุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย

Porsche ได้ทำการอัปเกรดรถสปอร์ตที่เป็นตำนานอย่าง 911 เริ่มต้นด้วยรุ่นพื้นฐานอย่าง 911 Carrera (992) รุ่นใหม่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบแบน 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งสามารถส่งมอบกำลังได้มากยิ่งขึ้น โดยได้รับการปรับปรุงด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์ใหม่จากรุ่น 911 GTS และระบบอินเตอร์คูลเลอร์ขั้นสูงจากรุ่น 911 Turbo ทำให้ 911 Carrera ใหม่สามารถผลิตพละกำลังได้ถึง 290 กิโลวัตต์ (394 แรงม้า) และแรงบิด 450 นิวตันเมตร

สิ่งนี้ทำให้ 911 Carrera Coupé สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 4.1 วินาที (3.9 วินาที เมื่อใช้ชุดอุปกรณ์ Sport Chrono) ก่อนที่จะทำความเร็วสูงสุดที่ 294 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงทั้งในด้านความเร็วและสมรรถนะ

การอัปเกรดและการออกแบบขยายไปทั่วทั้งคัน เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ภายนอกก็ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมมากขึ้น โดยมีกระจังหน้าแบบใหม่ที่เฉพาะเจาะจงกับรุ่น พร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ และยังมาพร้อมกับไฟหน้ารูปทรง LED Matrix แบบมาตรฐานที่รวมฟังก์ชันไฟทั้งหมดไว้ในดีไซน์สี่จุดที่เพรียวบาง

ภายใน 911 ยังคงรักษาการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ ในขณะเดียวกันก็ผสานเทคโนโลยีทันสมัยเข้าด้วยกัน ระบบ Porsche Driver Experience ใหม่จะนำฟังก์ชันที่สำคัญมาวางไว้ที่บริเวณพวงมาลัยหรือใกล้เคียงกับพวงมาลัย รวมถึงสวิตช์เลือกโหมดขับขี่ ปุ่มควบคุมที่ได้รับการอัปเดตสำหรับระบบช่วยเหลือ และเป็นครั้งแรกที่มีปุ่มสตาร์ทอยู่ทางด้านซ้ายของพวงมาลัย

รุ่น Coupé มาพร้อมกับที่นั่ง 2 ที่นั่งเป็นมาตรฐาน และสามารถเลือกเป็นการจัดที่นั่งแบบ 2+2 ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.6 นิ้วที่สามารถปรับแต่งได้ มีโหมดการแสดงผลถึง 7 แบบ รวมถึงแบบดีไซน์ห้าวงสุดคลาสสิก พร้อมมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ซึ่งเพิ่มความรู้สึกย้อนยุคให้กับห้องขับขี่สมัยใหม่

ความหรูหราที่ไร้ขีดจำกัด: Panamera 4 E-Hybrid ใหม่ทั้งหมด

Porsche Panamera ก้าวสู่เจเนอเรชั่นใหม่ (976/G3) ด้วยการออกแบบภายนอกและภายในที่ได้รับการปรับปรุงอย่างครอลคลุม รวมถึงเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดและนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย

Panamera 4 E-Hybrid ที่แสดงในงานมหกรรมยานยนต์ 2024 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ที่ถูกรวมเข้าไปในระบบเกียร์ PDK คลัทช์คู่ 8 สปีดที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งช่วยให้มีสมรรถนะที่น่าประทับใจ ด้วยพละกำลังรวมของระบบที่ 346 กิโลวัตต์ (470 แรงม้า) และยังสามารถวิ่งได้ระยะทางไฟฟ้าเต็มที่ถึง 91 กิโลเมตร ในมาตรฐานการทดสอบแบบ WLTP ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางไปทำงานในเมืองทุกวัน

Porsche ได้ติดตั้งช่วงล่างถุงลมแบบ 2 ชั้น และวาล์วควบคุมช่วงล่าง 2 วาล์ว พร้อมระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) เป็นพื้นฐานให้กับทุกรุ่นย่อย หรืออีกทางเลือกของช่วงล่าง ที่ชื่อว่า Porsche Active Ride ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มีให้เลือกสำหรับรุ่น E-Hybrid ซึ่งมอบความสามารถในการยึดเกาะและสมรรถนะในการเข้าโค้ง พร้อมกับความสะดวกสบายในระดับสูง

ทุกรุ่นของ Panamera ใหม่มาพร้อมกับการออกแบบที่ดูคล่องตัว ปราดเปรียวและทันสมัย ที่ด้านหน้าดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟหน้ารูปทรงใหม่แบบ Matrix LED ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และช่องระบายอากาศแนวนอนเพิ่มเติมจากรุ่นก่อน ส่วนที่ด้านหลังของสปอร์ตซาลูน ไฟท้ายแบบต่อเนื่องและกระจกหลังไร้กรอบทำให้ Panamera ใหม่มีลักษณะที่แตกต่างและโดดเด่น

ภายในห้องโดยสารและห้องขับขี่ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.6 นิ้ว สวิตช์เกียร์ใหม่ที่อยู่ทางซ้ายของพวงมาลัย และจอแสดงผลสำหรับผู้โดยสารขนาด 10.6 นิ้วที่สามารถเลือกติดตั้งได้ เพื่อยกระดับประสบการณ์โดยรวมของผู้โดยสาร

Porsche (AAS)