บริษัท Neta Auto (Hozon New Energy Automobile) หนึ่งในค่ายรถไฟฟ้าจีน กำลังเผชิญกับวิกฤตที่ทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากตัวแทนจากเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของบริษัท Neta ได้รวมตัวกันที่โรงงาน Tongxiang ของบริษัทเพื่อเรียกร้องเงินชดเชยสำหรับยานยนต์ที่ไม่ได้ส่งมอบและค่าชดเชยสำหรับการสูญเสียที่เพิ่มขึ้น
ตามรายงานทางโซเชียลมีเดีย ตัวแทนจากเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Neta กว่า 20 รายทั่วประเทศซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตกว่า 300 ราย รวมตัวกันที่ประตูโรงงานของ Neta เพื่อแสดงความไม่พอใจ การประท้วงครั้งนี้เน้นย้ำถึงสถานการณ์ทางการเงินที่เลวร้ายลง ทั้งที่ในอดีต Neta เคยเป็นหนึ่งในค่ายรถที่มีอนาคตสดใสของประเทศจีน
โดยข้อมูลจากตัวแทนตัวแทนจำหน่ายระบุว่าก้อรหน้านี้ทาง Neta ได้สัญญาว่าจะมีการทยอยส่งมอบรถที่ค้างไว้ รวมทั้งจัดการจ่ายหนี้ของซัพพลายเออร์ที่ค้างมากว่าครึ่งปี โดยทางตัวแทนจำหน่ายอ้างว่าพวกเขายังคงดำเนินการตามปกติ จ่ายเงินเดือนและสวัสดิการให้กับพนักงาน, การชำระภาษี และหลีกเลี่ยงการ ให้จ่าวเชิงลบในขณะที่รอให้ Neta ทำตามสัญญา
แต่ดูเหมือนว่าทาง Neta ไม่ได้ทำตามสัญญา เพราะมีแต่ข่าวลือว่า Neta จะจัดหาเงินทุนเพิ่มขึ้น แต่กลับไม่สามารถทำตามที่บอกไว้และไม่มีการส่งมอบรถ ทำให้ตัวแทนจำหน่ายต้องเสียเงินที่ลงทุนไป และทำให้มีหนี้เพิ่มมากขึ้น
โดย ตัวแทนตัวแทนจำหน่ายได้ยื่นข้อเรียกร้องข้อเสนอ สามข้อ ได้แก่ การชดเชยการสูญเสียการดำเนินงานตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 จนถึงปัจจุบัน รวมถึงการชำระเงินล่วงหน้าสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม 2025 การชำระเงินคืนทันทีภายในวันที่ 11 พฤษภาคม เพื่อชดเชยค่าเสียหายของรถที่ค่ายไม่สามารถส่งมอบตามกำหนดได้ รวมทั้ง ฟื้นฟูระบบบริการหลังการขายโดยด่วนเพื่อรองรับลูกค้าที่มีอยู่ประมาณ 400,000 รายของ Neta
Neta บริษัทประสบปัญหาทางการเงินมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2024 โดยมีรายงานการเลิกจ้างและการลดเงินเดือนจำนวนมาก ผู้ก่อตั้ง Fang Yunzhou เพิ่งก้าวเข้าสู่บทบาทที่กระตือรือร้นมากขึ้นโดยรับตำแหน่ง CEO ในขณะที่ยังคงตำแหน่งประธานไว้ Zhang Yong อดีต CEO ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความขัดแย้งได้ถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา
ยอดขายในประเทศของ Neta ร่วงลงอย่างมาก ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าบริษัทขายรถได้เพียง 487 คันในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2025 รวมกัน โดยไม่มีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายในเดือนมีนาคม ตัวเลขเหล่านี้ต่ำกว่าแบรนด์ EV ของจีนอื่นๆ โดย Neta X คิดเป็นเพียง 272 คัน และ NETA L คิดเป็นเพียง 149 คันในช่วงเวลานี้
เนื่องจากตลาดในประเทศกำลังพังทลาย NETA จึงหันไปทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทย บริษัทเพิ่งประกาศว่าได้รับคำสั่งซื้อ 1,219 รายการระหว่างงาน Thailand Motor Show และตั้งเป้าที่ทะเยอทะยานที่จะขายรถยนต์มากกว่า 10,000 คันในประเทศไทยในปี 2025 โดยตั้งเป้าที่จะเป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่รายใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ
ที่มา Carnewschina