CLA Class ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นรุ่นแรกที่จะเปิดตัวระบบส่งกำลังไฟฟ้าแบบใหม่ และระบบไฮบริด แบบ 48 โวลต์สำหรับรถยนต์ Mercedes-Benz ในอนาคต CLA จะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มรถระดับเริ่มต้นที่ประกอบด้วยรถ SUV สองรุ่น โดยทั้งสามรุ่นใช้สถาปัตยกรรมโมดูลาร์ Mercedes-Benz (MMA) และทาง Mercedes ยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่ออนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนแบบ 100% อยู่ไม่เปลี่ยน
หัวใจสำคัญการก้าวสู่ยุค EV ล้วนคือระบบส่งกำลังไฟฟ้ารุ่นใหม่ 2.0 ซึ่ง Mercedes ออกแบบเองภายในบริษัท โดยติดตั้งไว้ที่เพลาล้อหลัง ทำให้มีกำลัง 268 แรงม้า และยังมีการเพิ่มรุ่น CLA ในสหรัฐอเมริกาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC โดยเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้า 107 แรงม้าที่เพลาหน้า การออกแบบระบบส่งกำลังที่กะทัดรัดจะช่วยให้รถ EV มีห้องเก็บสัมภาระด้านหน้าได้
มอเตอร์ด้านหน้าจะทำหน้าที่เป็นระบบขับเคลื่อน “เสริมแรง” ซึ่งจะทำงานเมื่อจำเป็น CLA จะทำได้โดยใช้ Disconnect Unit ที่สามารถแยกมอเตอร์ด้านหน้าออกจากเพลา เพิ่มประสิทธิภาพและระยะทางของ EV ควบคู่ไปกับเกียร์สองสปีด (ที่อยู่ในชุดขับเคลื่อนหลัก) ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 130 ไมล์ต่อชั่วโมง

CLA ไฟฟ้าล้วน จะใช้เทคโนโลยี 800 โวลต์และชาร์จไฟด่วนแบบ DC สูงสุด 320 กิโลวัตต์ แม้ว่า Mercedes จะไม่ได้แจ้งเวลาในการชาร์จอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการอ้างอิงถึง Concept CLA Class ที่ระบุว่าชาร์ต 10 นาทีวิ่งได้ 186 ไมล์ (300 กม.) และวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 466 ไมล์ (750 กม.)
Mercedes เข้าใจดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะใช้ไฟฟ้าทั้งหมด จึงได้ออกแบบรุ่น MMA เพื่อรองรับเครื่องยนต์ไฮบริด 48 โวลต์ CLA จะมาถึงสหรัฐอเมริกาพร้อมกับเครื่องยนต์ Miller-cycle สี่สูบ 1.5 ลิตร M252 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ของผู้ผลิตจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ Family of Modular Engines (FAME)
มีเกียร์คลัตช์คู่แปดสปีดที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่เรียกว่า 8F-eDCT พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 27 แรงม้าและอินเวอร์เตอร์ที่ดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 1.3 Kilowatt-hour ต่างจาก EV ระบบส่งกำลังแบบไฮบริดจะหมุนล้อหน้า ทำให้มีกำลัง 188 แรงม้า และจะมีให้เลือกใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC
Mercedes ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับราคาเริ่มต้นของ CLA คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงปีหน้า

ที่มา Motor1