BYD Tang L รุ่นใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Dynasty ของ BYD คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 มกราคมที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในเมืองเซินเจิ้น โดยเมื่อไม่นานมานี้ มีคนพบเห็นรถรุ่นนี้จอดบนทางหลวงพร้อมกับแท่นจอดโดรนบนหลังคา ซึ่งถือเป็นการก้าวออกจากรุ่น BYD Tang รุ่นเก่า โดยมาพร้อมดีไซน์ที่ล้ำหน้าและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า
รถยนต์รุ่นนี้ใช้ดีไซน์ “Dragon Face” อันเป็นเอกลักษณ์ของ BYD ทำให้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้า โดยมีคุณสมบัติเด่นอย่างหนึ่งคือระบบเชื่อมต่อโดรนบนหลังคาที่เป็นทางเลือก ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือในการทำกิจกรรมกลางแจ้งและการสำรวจระยะไกล
รถยนต์ SUV รุ่นนี้สร้างขึ้นบน e-Platform 3.0 ของ BYD สำหรับรุ่น EV และผสานเทคโนโลยี DM 5.0 เข้ากับรุ่น PHEV โดยมีความยาว 5,040 มม. ความกว้าง 1,996 มม. และความสูง 1,760 มม. โดยมีฐานล้อ 2,950 มม. การเพิ่มระบบเชื่อมต่อโดรนทำให้ความสูงเพิ่มขึ้นเป็น 1,970 มม.
ภายในของรุ่น Tang L คาดว่าจะมีห้องโดยสารที่กว้างขวางและหรูหราพร้อมที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร 7 คน โดยจะมีหน้าจอควบคุมส่วนกลางแบบลอยตัว พวงมาลัยทรง D และคอนโซลกลางพร้อมแท่นชาร์จไร้สายและที่วางแก้ว
รุ่น EV มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ มอเตอร์ตัวเดียวให้กำลัง 500 กิโลวัตต์ (671 แรงม้า) หรือแบบมอเตอร์คู่ โดยมอเตอร์ด้านหน้าให้กำลัง 230 กิโลวัตต์ (308 แรงม้า) และมอเตอร์ด้านหลังให้กำลัง 580 กิโลวัตต์ (778 แรงม้า)
รุ่น PHEV ใช้เครื่องยนต์ 1.5T จับคู่กับมอเตอร์ตัวเดียวให้กำลัง 200 กิโลวัตต์ (268 แรงม้า) หรือแบบมอเตอร์คู่ให้กำลังสูงสุด 400 กิโลวัตต์ (536 แรงม้า) โดยรุ่น PHEV มีระยะวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน 135 กม., 150 กม. หรือ 165 กม. ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่า
น้ำหนักบรรทุกของรถยนต์อยู่ที่ 2,675–2,967 กก. และความสามารถในการลากจูงอยู่ที่ 2,000 กก. คุณสมบัติอื่น ๆ ได้แก่ ลิดาร์ที่ติดตั้งบนหลังคา กล้องด้านหลัง และล้อขนาด 20 หรือ 21 นิ้ว รายละเอียดเพิ่มเติมจะเปิดเผยในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
อ้างอิง CarNewsChina