แบรนด์ Fang Cheng Bao ของ BYD ประกาศเปิดตัวซีรีส์ฮาร์ดคอร์ใหม่ชื่อว่า “Titanium” ซึ่งเน้นกลุ่มผู้บริโภคที่เน้นครอบครัว ผลิตภัณฑ์แรกของซีรีส์นี้คือ Titanium 3 ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและห้องโดยสารแบบโดรนบนหลังคาเสริม
Titanium 3 จะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และอาจมีราคาอยู่ที่ประมาณ 200,000 หยวน (ประมาณ ฿937,xxx)
Fang Cheng Bao คือแบรนด์รถออฟโรดของ BYD ที่เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยมีสายผลิตภัณฑ์หลักชื่อว่า Bao ซึ่งจะเปิดตัวร่วมกับ Titanium ในปี 2025
ในงานเปิดตัว FCB Bao 8 Xiong Tianbo ผู้จัดการทั่วไปของ FCB กล่าวว่าผู้ใช้ FCB Bao 5 คิดเป็น 70% ของผู้ใช้ในครัวเรือน FCB ตั้งใจที่จะขยายตลาดเข้าสู่ตลาดภายในบ้านและกล่าวถึงแนวคิดการใช้งานภายในบ้านในการสื่อสารอยู่เสมอ ซีรีย์ใหม่นี้ตั้งชื่อตามองค์ประกอบทางกายภาพและเคมีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชีวิตมนุษย์ ซึ่งก็คือ “Titanium” ซึ่งมีคุณสมบัติความเหนียวและความยืดหยุ่นสูงเป็นพิเศษ ตามที่แบรนด์ระบุ
รูปลักษณ์ของ Titanium 3 ยังคงสไตล์การออกแบบของรถแนวคิด Super 3 และใช้โครงสร้างแบบ unibody ซึ่งแตกต่างจากโครงสร้างตัวถังบนเฟรมของซีรีส์ Bao ความยาว ความกว้าง และความสูงของรุ่นมาตรฐานของ Titanium 3 คือ 4,605/1,900/1,720 มม. โดยมีระยะฐานล้อ 2,745 มม. ความสูงของห้องโดยสารแบบหลังคาโดรนเสริมนั้นสูงกว่า 210 มม. โดยสูงถึง 1,930 มม. ในขณะที่พารามิเตอร์อื่น ๆ ยังคงเหมือนเดิม น้ำหนักบรรทุกของรถทั้งสองรุ่นคือ 2,170 กก. และ 2,265 กก. มุมเข้าคือ 25° และมุมออกคือ 28° มีการระบุข้อมูลจำเพาะของยางสองรุ่น ได้แก่ 235/60R18 และ 245/50R19
ทั้งสองรุ่นใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าล้วน มอเตอร์อะซิงโครนัสไฟฟ้ากระแสสลับด้านหน้า (รุ่น YS230XYC) มีกำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (148 แรงม้า) และมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรด้านหลัง (รุ่น TZ200XYZ) มีกำลังสูงสุด 200 กิโลวัตต์ (268 แรงม้า) ความเร็วสูงสุด 201 กม./ชม. แบตเตอรี่มาจากชุดแบตเตอรี่ BYD Blade
นอกจากนี้ รุ่นมาตรฐานยังมาพร้อมกับซันรูฟแบบพาโนรามิกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและการกำหนดค่าเสริม เช่น กระจกหลังแบบไม่เป็นส่วนตัว กล้องที่ติดตั้งอยู่ทั่วทั้งรถ สีของขอบกันชนหน้า สีของคาลิปเปอร์เบรก และดีไซน์ของขอบล้อ รุ่นหลังคาแบบโดรนที่เป็นอุปกรณ์เสริมมาพร้อมกับห้องโดยสารแบบไร้คนขับเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและการกำหนดค่าเสริมที่คล้ายคลึงกัน
อ้างอิง CarNewsChina