ผลการศึกษาล่าสุดจาก Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) และ U.S. Department of Transportation’s Volpe Center เป็นเรื่องที่น่าตกใจและควรได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง เพราะมันชี้ให้เห็นว่า “จุดบอดด้านหน้า” ของรถยนต์แย่ลงอย่างมากในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา
การศึกษาได้พัฒนาวิธีการใหม่ที่สามารถทำซ้ำได้ โดยใช้กล้องแบบพกพาในการวัดเปอร์เซ็นต์ของถนนที่ผู้ขับขี่มองเห็นในมุมมอง 180 องศาด้านหน้า ซึ่งระบุพื้นที่ที่ถูกบดบังโดยเสา A, ฝากระโปรงหน้า และกระจกมองข้าง
- ทัศนวิสัยลดลงอย่างมาก: โดยเฉพาะในรถยนต์ขนาดใหญ่ ตัวอย่างเช่น Honda CR-V ทัศนวิสัยลดลงจาก 68% ในปี 1997 เหลือเพียง 28% ในปี 2022 และ Chevrolet Suburban ลดลงจาก 56% ในปี 2000 เหลือ 28% ในปี 2023 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากฝากระโปรงหน้าที่มีความสูงมากขึ้น
- รถเก๋งได้รับผลกระทบน้อยกว่า: รถซีดานอย่าง Honda Accord และ Toyota Camry มีทัศนวิสัยที่ลดลงไม่มากนักเมื่อเทียบกับรถยนต์ขนาดใหญ่
การลดลงของทัศนวิสัยภายนอกนี้ สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจของจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นคนเดินเท้าและผู้ขับขี่จักรยานบนท้องถนนในสหรัฐฯ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างสองสิ่งนี้
แม้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น กล้องมองหลังดิจิทัล และระบบตรวจสอบจุดบอด จะถูกนำมาใช้เพื่อชดเชย แต่สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลให้นักออกแบบกล้าที่จะลดพื้นที่กระจกของรถลง ซึ่งส่งผลเสียต่อการมองเห็นของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงการออกแบบที่มุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการชน เช่น การขยายเสา A และการใช้เหล็กกล้าความแข็งแรงสูงมากขึ้น ก็ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการมองเห็นของผู้ขับขี่เช่นกัน
การศึกษาชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มทัศนวิสัยภายนอกที่แย่ลงนี้ ควรได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียด เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับทุกคนบนท้องถนน
อ้างอิง Car and Driver