OMODA & JAECOO ผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกเปิดเผยถึงความโดดเด่นของ JAECOO 7 SHS รถPHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) ที่ขับเคลื่อนได้ทั้งระบบมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ให้ความประหยัดที่เหนือกว่าพร้อมอัตราเร่งทันใจขับสนุกทุกเส้นทางและดีไซน์ที่สะท้อนความภูมิฐานภายใต้แนวคิด ‘JAECOO 7 SHS : From Classic Beyond Classic’

ในกิจกรรม JAECOO 7 SHS Media Test Drive ที่ทาง OMODA & JAECOO ได้จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อทดสอบสมรรถนะของ JAECOO 7 SHS อย่างละเอียดในด้านต่าง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่การขับขี่แต่ยังรวมถึงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง รวมถึงแบตเตอรี่อัตราการเร่งและความปลอดภัยในการขับขี่บนถนนเปียก การขับในทางโค้ง ระบบเบรก และระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นถึงความโดดเด่นของ JAECOO 7 SHS อย่างครบถ้วน
ระหว่างการเดินทางได้มีการทดสอบอัตราการใช้น้ำมัน ซึ่งเผยให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันของ JAECOO 7 SHS ที่สามารถขับขี่ได้ถึง 30.35 กม./ลิตร จากการทดสอบการขับขี่ด้วยน้ำมันเต็มถังและพลังงานแบตเตอรี่ที่ 25% โดยเป็นการขับขี่ที่ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์เป็นหลักเกือบ100%ตลอดเส้นทางกว่า 200 กิโลเมตรในเวลากว่า 2 ชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพด้านความประหยัดเชื้อเพลิงอย่างชัดเจน
จากการขับขี่ JAECOO 7 SHS ในสนามแข่ง 8-Speed คุณ ท็อป – ธนาตย์ เสถียรถิระกุล และคุณ แจ็ค เลมวาร์ด สองนักแข่งรถที่มีชื่อเสียงระดับมอเตอร์สปอร์ต แสดงให้เห็นถึงอัตราเร่งที่ตอบสนองฉับไว ชนิดที่สัมผัสได้ทันทีหลังติดเบาะเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ เกาะถนนดีเยี่ยม พร้อมการควบคุมที่แม่นยำในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบ Slalom หรือบนพื้นถนนเปียก

นอกจากนั้นเพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นรถยนต์ Plug-in Hybrid ที่ไม่ได้มีดีแค่ความประหยัดการใช้เชื้อเพลิง (Fuel Consumption) และจากระบบผสม (Combine Consumption) แต่ยังสามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุดได้มีการทดสอบขับขี่บนเส้นทางลาดชันขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ด้วยโหมด EV (Electric Vehicle) ตลอดเส้นทางกว่า 80 กิโลเมตร ผลลัพธ์ที่ได้ คือการขับขี่ที่ราบรื่นมั่นใจ และทรงพลังแม้ในสภาพภูมิประเทศที่ท้าทาย พร้อมตอบโจทย์การขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คุณ บิล จาง ผู้อำนวยการ บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าวว่า “JAECOO 7 SHS คือ รถ PHEV ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ในประเทศไทย ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้านสมรรถนะและความปลอดภัยระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะจากการทดสอบการขับขี่จริงที่สะท้อนอัตราสิ้นเปลืองที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่า JAECOO 7 SHS เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง”

ยิ่งไปกว่านั้นไม่ต้องกังวลค่าบำรุงรักษาให้ขับได้ระยะทางที่ไกลมากกว่าเดิมหากเทียบกับรถ Plug-in Hybrid นวัตกรรมเดิม หากเปรียบเทียบ ค่าบำรุงรักษาระยะเวลา 5 ปี
ค่าบำรุงรักษารถยนต์ JAECOO 7 SHS | ค่าบำรุงรักษา รถ Plug-in Hybrid นวัตกรรมเดิม | ค่าบำรุงรักษา รถ Hybrid | ค่าบำรุงรักษา รถสันดาป |
เฉลี่ย 27,051 บาท ต่อ 5 ปี | เฉลี่ย 39,837 บาท ต่อ 5 ปี | เฉลี่ย 40,631 บาท ต่อ 5 ปี | เฉลี่ย 39,071 บาท ต่อ 5 ปี |
ลูกค้าที่สนใจ JAECOO 7 SHS นัดทดลองขับกับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ 36 สาขา พร้อมข้อเสนอพิเศษเพียงเพียงทดลองขับ JAECOO 7 SHS และแชร์ความประทับใจกับเราผ่าน Facebook ของคุณ Tag Facebook Page @OmodaandJaecooTh และใส่ Hashtag: #JAECOO7SHS ตั้งแต่วันที่ 18 – 30 มิถุนายน 2568 รับทันที! Central E-Gift Card มูลค่า 1,000 บาท* สำหรับ 300 ท่านแรกเท่านั้น ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-020-8888 และ website https://www.omodajaecoo.co.th
สำหรับ JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 และระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT ที่ทำให้การทำงานระหว่าง EV และ HEV เป็นไปอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ และด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การขับรถ PHEV ที่ทำให้การขับขี่ Plug-in Hybrid มีความคุ้มค่าทั้งในด้านประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายและระยะทางการขับขี่ พร้อมห้องโดยสารมาพร้อม Smart Cockpit รองรับคำสั่งเสียง ระบบจดจำผู้ขับขี่ และจออินเตอร์เฟซตอบสนองฉับไว เสริมระบบความปลอดภัย ADAS ครบชุด เช่น กล้อง 540 องศา และ Adaptive Cruise Control ที่ทำให้การขับขี่ Plug-in Hybrid มีความคุ้มค่าทั้งในด้านค่าใช้จ่าย และระยะทางการขับขี่ ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ถึง 106 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) มาพร้อมเทคโนโลยี Regenerative Braking หรือการเบรกแบบสร้างใหม่ ที่ให้รถสามารถดูดกลืนพลังงานจากการเหยียบเบรกผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าและส่งกลับไปยังแบตเตอรี่ของรถยนต์ จึงเป็นอีกจุดเด่นในการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถขับขี่รวมได้ไกลถึง 1,300 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ด้วยน้ำมันเพียงหนึ่งถังและการชาร์จแบตเตอรี่เพียงครั้งเดียว

ในขณะที่การออกแบบที่คลาสสิกและทรงพลังของ JAECOO 7 SHS สะท้อนความเป็นรถระดับพรีเมียม กระจังหน้าถูกออกแบบมาให้โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดพรีเมียม พร้อมไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light (DRL) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ให้ชัดเจนในทุกสภาพอากาศ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ถูกออกแบบมาให้เข้ากับตัวรถเพิ่มความแข็งแกร่งและความมั่นใจในการขับขี่ ในขณะที่กระจกมองข้างมาพร้อม ระบบไล่ฝ้า เพื่อให้วิสัยทัศน์ชัดเจนตลอดเส้นทาง
ด้านความปลอดภัย JAECOO 7 SHS มาพร้อมระบบความปลอดภัยชั้นเลิศ เช่นการขับขี่บนถนนเปียกที่สามารถยึดเกาะถนนได้ดี ไม่ลื่นไถล การขับแบบสลาลมไม่ว่าจะเข้าโค้งไวแค่ไหน ก็ขับสนุกและมั่นใจ และระบบเบรคที่สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว แม้เหยียบเบรคอย่างรวดเร็ว รถก็หยุดนิ่งได้อย่างมั่นคง ไม่มีการสะบัด นอกจากนี้ JAECOO 7 SHS ยังมีความปลอดภัยเหนือมาตรฐาน ด้วยระบบตัดพลังงานฉุกเฉินภายใน 2 มิลลิวินาที และการปกป้องในทุกสภาพอากาศ รวมถึงการลุยน้ำลึกถึง 450 มม. และระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT ที่ให้กำลังสูงสุด 347 แรงม้า
JAECOO 7 SHS ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในทุกรูปแบบการใช้ชีวิต ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่โดดเด่นและประหยัดน้ำมัน รวมถึงความปลอดภัยระดับพรีเมียม พร้อมเผยนิยามใหม่ของ “การขับขี่อัจฉริยะ” ผ่านเอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์รุ่นนี้ที่ออกแบบมาเพื่อมอบความคุ้มค่าในทุกการใช้งานประจำวัน

JAECOO 7 SHS มี 2 รุ่นย่อยได้แก่
JAECOO 7 SHS Dynamic – ราคา 899,000 บาท
JAECOO 7 SHS Max – ราคา 999,000 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจทดลองขับ JAECOO 7 SHSสามารถสอบถามรายละเอียดหรือนัดทดลองขับได้ที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะที่ไม่เหมือนใคร โทร. 02-020-8888 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.omodajaecoo.co.th สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม