Xiaomi เตรียมเปิดตัว YU7 รถ SUV ตัวแรงรุ่นที่ 2 ของค่าย ในเดือนมิถุนายน

Lei Jun ซีอีโอของ Xiaomi ประกาศเมื่อวันนี้ว่ารถ SUV รุ่น Xiaomi YU7 ที่หลายคนรอคอยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในสิ้นเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ ในงานดังกล่าวจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่น ของ Xiaomi อีกหลายรายการ รวมถึง Xiaomi Pad 7S Pro ซึ่งจะเป็นแท็บเล็ตรุ่นที่สองที่ใช้ชิป Xuanjie O1

Xiaomi YU7 มีขนาด 4,999 มม. (ยาว) x 1,996 มม. (กว้าง) x 1,600 มม. (สูง) โดยมีฐานล้อ 3,000 มม. ตำแหน่งนี้ทำให้เป็น SUV ขนาดกลางถึงใหญ่โดยเป็นคู่แข่งของ Tesla Model Y

จุดเด่น Xiaomi YU7 คือความปลอดภัยและเทคโนโลยี โดยYU7 ผลิตจากเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ 2,200 MPa ในคานป้องกันการชนที่ประตูหน้าและประตูหลัง การออกแบบนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนักของประตูหน้าได้มากถึง 52.4% และการดูดซับพลังงานได้ 40.2% ความสามารถในการรับน้ำหนักของประตูหลังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น 37.6% โดยการดูดซับแรงกระเทกเพิ่มขึ้น 25.4% ซึ่งทำให้มีเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารเมื่อเกิดการชนด้านข้าง

ส่วนระบบขับขี่อัตโนมัติ ติดตั้งแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ Nvidia Drive AGX Thor ซึ่งมีพลังการประมวลผล 700 TOPS มาพร้อม LiDar เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 4 มิติ และกล้องป้องกันแสงสะท้อน 7 ตัวที่โปร่งใสเป็นพิเศษ รองรับฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง

โดยภายในห้องโดยสารอัจฉริยะ ของ YU7 มาพร้อมดีไซน์ห้องโดยสารหรูหราแบบดูอัลโซนรอบทิศทาง และเปิดตัว “Xiaomi Horizon Screen Panorama Display” โดยจอแสดงผลนี้ใช้หน้าจอแบบ LED จำนวน 3 จอเพื่อสร้างภาพฉายกว้างพิเศษลากยาวกว้างถึง 1.1 เมตร ช่วยให้สามารถแสดงผลได้หลากหลาย

Xiaomi YU7 จะมีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์เดี่ยวและแบบมอเตอร์คู่ โดยรุ่นมอเตอร์คู่ให้กำลังขับรวม 508 กิโลวัตต์ (681 แรงม้า) และทำความเร็วสูงสุดได้ 253 กม./ชม. ส่วนแบตเตอรี่ ได้แก่ แบตเตอรี่ NMC (Nickel Manganese Cobalt) และ LFP (Lithium Iron Phosphate) ที่จัดหาโดย CATL รุ่นมาตรฐานวิ่งได้ 835 กิโลเมตร รุ่น Pro วิ่งได้ 770 กิโลเมตร และรุ่น Max วิ่งได้ 760 กิโลเมตร ความจุแบตเตอรี่ 96.3 กิโลวัตต์ฮาว และ 101.7 กิโลวัตต์ฮาว

Xiaomi YU7 มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 250,000 หยวน (1,130,000 บาท) ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Tesla Model Y โดยมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในแง่ของขนาด ระยะทาง และยังแรงกว่ามากด้วย

ที่มา Carnewschina