Bentley ตัดสินใจชะลอการส่งออกรถยนต์บางส่วนเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ชั่วคราว เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีที่นำมาใช้โดยรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ แม้จะมีการทำข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็ตาม
Bentley ได้หยุดการจัดส่ง “สต็อก” รถยนต์ที่จะถูกเก็บไว้ในโชว์รูมของตัวแทนจำหน่าย แต่ยังคงนำเข้ารถยนต์ที่ลูกค้าสั่งซื้อโดยตรง เพื่อลดความสับสนเรื่องราคา ทางบริษัทได้ตรึงราคาไว้คงที่สำหรับเดือนมิถุนายน
มาตรการภาษีดังกล่าว เดิมอยู่ที่ 25 เปอร์เซ็นต์ แต่ได้ลดลงเหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรถยนต์ 100,000 คันแรกที่นำเข้าจากสหราชอาณาจักรในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม หลังจากถึงขีดจำกัดดังกล่าว อัตราภาษี 25 เปอร์เซ็นต์ก็จะกลับมาบังคับใช้อีกครั้ง
สถานการณ์นี้สร้างความไม่แน่นอนให้กับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษหลายราย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์หรูอย่าง Rolls-Royce, Bentley, และ Land Rover ไปจนถึงรถยนต์ราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าอย่าง Mini และรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่าง Aston Martin และ McLaren ที่สำคัญคือ รายละเอียดของการจัดสรรโควต้า 100,000 คันนี้ให้กับผู้ผลิตรถยนต์แต่ละรายยังคงไม่ชัดเจน ซึ่งยิ่งเพิ่มความกังวลให้กับผู้ประกอบการ
การตัดสินใจของ Bentley ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังของผู้ผลิตรถยนต์ในการรับมือกับความผันผวนของนโยบายทางการค้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจและราคาสินค้าในตลาด การที่รัฐบาลเข้ามามีบทบาทในเรื่องภาษีนำเข้า ย่อมสร้างความท้าทายให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก และทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวและวางแผนกลยุทธ์อย่างรอบคอบยิ่งขึ้น
อ้างอิง Car and Driver