การผลิตยานยนต์ในสหราชอาณาจักรลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 70 ปี สาเหตุเป็นเพราะความไม่แน่นอนของภาษีจากสงครามการค้าที่อเมริกาเป็นคนก่อขึ้น ตามรายงานของ Wards Auto โดยอ้างอิงจาก Society of Motor Manufacturers and Traders (SMMT) ระบุว่าในเดือนเมษายน อังกฤษผลิตรถได้เพียง 59,203 คัน ซึ่งเป็นระดับรายเดือนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1952 ยกเว้นช่วงล็อกดาวน์ไม่กี่เดือนระหว่างการระบาดของโควิดในปี 2020
เดือนแห่งการผลิตที่ย่ำแย่อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น วันหยุดอีสเตอร์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายนของปีนี้ ทำให้ระยะเวลาการผลิตลดลง แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นภาษีรถยนต์ของสหรัฐฯ ซึ่ง ณ ขณะนี้ อยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์และอาจจะปรับขึ้นอีกหากไม่สามารถตกลงกันได้
ไมค์ ฮอว์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหน่วยงาน Society of Motor Manufacturers and Traders (SMMT) ได้กล่าวว่าอังกฤษกำลังพบกับปัญหาใหญ่ที่สุดนับ ตั้งแต่ปี 2009 เมื่อเศรษฐกิจยังคงเผชิญกับวิกฤตทางการเงินที่เกิดขึ้นทั่วโลก
โดยการผลิตรถยนต์ใน UK ในเดือนเมษายนลดลง 15.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อพิจารณาให้ลึกลงไป รถยนต์นั่งส่วนบุคคลลดลง 8.6 เปอร์เซ็นต์เหลือ 56,534 คัน ขณะที่รถยนต์เชิงพาณิชย์ลดลงมากถึง 68.6 เปอร์เซ็นต์เหลือเพียง 2,669 คัน
การลดลงนี้เกิดจากการปิดโรงงาน และความกังวลเกี่ยวกับกำแพงภาษีศุลที่ยังคงไม่แน่นอน ทำให้การส่งออกรถลดลง 19.1 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเมษายน นอกจากนี้ จำนวนรถยนต์ที่ส่งไปยังสหรัฐอเมริกาลดลง 2.7 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ในทางกลับกัน การส่งไปยังจีนเพิ่มขึ้น 44 เปอร์เซ็นต์และตุรกีเพิ่มขึ้น 31.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจจะเป็นช่องทางใหม่ในการแก้วิกฤตครั้งนี้เนื่องจากหากไปขายในอเมริกาไม่ได้การเปิดตลาดอื่นอาจจะเป็นหนทางในการแก้ปัญหา

ที่มา Motor1