มีรายงานว่าเจ้าของ Xiaomi SU7 Ultra กว่า 400 ราย ได้รวมกลุ่มกัน เพื่อดำเนินคดีกับ Xiaomi โดยแต่ละคนได้ร่วมทุนคนละ 3,000 หยวน แม้ว่าจะไม่ได้มีหลักฐานอย่างชัดเจนว่าการฟ้องร้องเกิดขึ้นจริง เพราะมีเพียงภาพเอกสารที่ผล่อยผ่านโลกออนไลน์ แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นต่อคุณภาพของ SU7 ของ Xiaomi
การฟ้องร้องนี้เกี่ยวข้องกับฝากระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์เสริมราคา 42,000 หยวน (193,000 บาท) ซึ่งได้รับการโฆษณาว่ามี ช่องระบายอากาศคู่ ที่ใช้งานได้เพื่อปรับปรุงพลศาสตร์อากาศและการระบายความร้อน แต่ก็มีผู้นำไปทดสอบและผลออกมาว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เป็นเพียงอุปกรณ์เพื่อตกแต่ง ทำให้เกิดดราม่าตามมาอย่างมาก เพราะด้วยราคาที่แพงและทำไม่ได้ตามที่โฆษณาไว้
โดยหลังจาก Xiaomi ได้ออกมาขอโทษเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม โดยยอมรับว่าคำอธิบายผลิตภัณฑ์ไม่ชัดเจน และทาง Xiaomi เสนอคะแนนสะสม 20,000 คะแนนให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ และสามารถเลือกเปลี่ยนเป็นฝากระโปรงอลูมิเนียมได้ แต่เจ้าของรถหลายรายปฏิเสธข้อเสนอนี้ โดยอ้างว่าต้องรออะไหล่นาน ซึ่งรายงานระบุว่าใช้เวลา 30 ถึง 40 สัปดาห์ จนเป็นที่มาของการฟ้องร้อง Xiaomi
ซึ่งก่อนหน้านี้ Lei Jun ซีอีโอของค่าย Xiaomi ได้กล่าวถึงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเป็น “ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง Xiaomi” ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้ เกิดปัญหาคือการฟ้องร้องเนื่องจากการทดสอบฝากระโปรงรถไม่ตรงกับข้อความโฆษณาไว้
โดยสมาชิกกลุ่มที่ได้เข้าชื่อฟ้องร้อง Xiaomi ได้เน้นย้ำว่าการร้องเรียนของพวกเขาไม่ได้เพีนงแค่ต้องการเงิน แต่เราอยากให้ Xiaomi รับผิดชอบกับสิ่งที่ได้โฆษณากับผู้บริโภค และด้วยปัญหาอาจส่งผลต่อการเปิดตัว SUV YU7 รุ่นใหม่ของ Xiaomi ได้รับผลกระทบเนื่องจากมีดราม่าคุณภาพการผลิต ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะเกิดอุบัติเหตุรถ SU7 จนบนทางด่วนจนมีผู้เสียชีวิต 3 รายเนื่องจากระบบขับขี่อัตโนมัติ ก็ต้องดูว่าทาง Xiaomi จะสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้หรือไม่

ที่มา Carnewschina