OMODA & JAECOO ผนึกกำลัง BOI จัดงาน OMODA & JAECOO Sourcing Day เฟ้นหาผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย มุ่งพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไทยสู่ระดับโลก

OMODA & JAECOO ภายใต้ บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จัดงาน “Sourcing Day” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ พร้อมรับทราบนโยบายการจัดซื้อ และเข้าร่วมการเจรจาธุรกิจโดยตรงกับบริษัทฯ โดยได้รับเกียรติจาก นาย นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และนาย ฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดงานณ ห้อง Cattleya โรงแรม Rama Gardens Hotel Bangkok

นาย นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า “กิจกรรม Sourcing Day เป็นงานที่
บีโอไอให้ความสำคัญ เพื่อผลักดันการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ ผ่านการเชื่อมโยงผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยกับบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงซัพพลายเชนระดับโลก และเกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิต, การจัดการ, การถ่ายทอดเทคโนโลยี และอาจนำไปสู่การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจหรือการร่วมทุนกันในอนาคต การร่วมมือกับบริษัทระดับโลกอย่าง Chery Automobile (OMODA & JAECOO) ในวันนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทย และช่วยยกระดับผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก”

ภายในงานมีผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยให้ความสนใจเข้าร่วมงานจำนวน 370 คน จาก 200 บริษัท โดยมี 50 บริษัท ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมเจรจาธุรกิจโดยตรงกับ OMODA & JAECOO ในรูปแบบ Business Matching รวมทั้งสิ้น 50 คู่เจรจา ทั้งนี้ คาดว่าการเจรจาธุรกิจในครั้งนี้จะสร้างมูลค่าการซื้อขายชิ้นส่วนในประเทศรวมกว่า 2,100 ล้านบาท

OMODA & JAECOO ตั้งเป้าที่จะดึงดูดผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำในของประเทศไทย ทั้งในด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญ เพื่อนำเทคโนโลยียานยนต์ขั้นสูงมาสู่ประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการสรรหาผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สำคัญในหลากหลายกลุ่ม ได้แก่ Chassis, Electrical, Exterior, Tire repair kit, New Energy, Powertrain, Interior และ Kit set โดยตั้งเป้าอัตราการผลิตในประเทศ 45% ภายในปีนี้ และเพิ่มมากขึ้นถึง 60% ภายใน 5 ปี เพื่อให้สอดคล้องไปกับการขยายตัวของระบบนิเวศชิ้นส่วนยานยนต์ของประเทศไทย

นาย ฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าวว่า “OMODA & JAECOO รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้จัดงาน Sourcing day ร่วมกับ BOI ขึ้นในครั้งนี้ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งผ่านการเจรจาธุรกิจในงาน Sourcing Day นี้  ด้วยผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทยมีศักยภาพและนวัตกรรม ทำให้เรามองเห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการร่วมงานกับอุตสาหกรรมท้องถิ่นของไทย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งตลาดภายในประเทศและระดับสากล ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสำคัญกับงานนี้ และเราหวังว่าวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล”

นาย พิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธานบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความพร้อมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยว่า”ความคืบหน้าความพร้อมของโรงงานเรา ในตอนนี้เราได้โรงงานผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งอยู่ที่อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ด้วยพื้นที่ขนาด 104 ไร่ โดยมีมูลค่าการลงทุนที่วางแผนไว้ทั้งสิ้นราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถเริ่มการผลิตได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ด้วยเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 50,000 คันในเฟสแรก และมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 80,000 คันต่อปีภายในปี 2571 เพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในเอเชีย”

โรงงานแห่งนี้จะเน้นการผลิตแบบ Completely Knocked Down (CKD) โดยเริ่มจาก JAECOO 6 EV ในช่วงแรก และจะขยายไปสู่ทุกรุ่นหลังจากปี 2571 พร้อมติดตั้งหุ่นยนต์เชื่อมสำหรับการเชื่อมอลูมิเนียมที่แม่นยำ นอกจากนี้ในอนาคตยังมีแผนลงทุนในผลิตยานยนต์ ทั้งขยายกำลังการผลิตและโมเดลไฟฟ้าไฮบริด (HEV) รถยนต์รุ่นอื่นๆ ของ Chery Group และการจัดตั้งโรงพ่นสีภายในปี 2570 และทางเราได้มีการวางแผนจัดตั้งศูนย์วิจัย และพัฒนาในประเทศไทยภายใน 3 ปีข้างหน้า รวมถึงการให้ความสำคัญในการจัดจ้างงานสำหรับการทำงานในโรงงานนี้โดยเริ่มต้นจะเป็นแรงงานไทย 150 คน สำหรับการทำงานกะเดียว และจะขยายโรงงานและอัตราการจ้างแรงงานไทยเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยด้วย

“เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทย ซึ่งมีทั้งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ สามารถผลิตชิ้นส่วนที่มีคุณภาพสูงในระดับสากล ประกอบกับวิสัยทัศน์ของ OMODA & JAECOO ที่มุ่งมั่นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในเอเชียเรามองว่านี่คือโอกาสสำคัญในการสนับสนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศ ให้ก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งของซัปพลายเชนระดับโลก และร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ในภูมิภาคการส่งเสริมการพัฒนาแรงงานในประเทศอย่างยั่งยืน” นาย พิชญุตม์ กล่าวทิ้งท้าย

การจัดงานครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในประเทศได้มีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ที่จะมาสร้างมาตรฐานใหม่ในวงการรถยนต์