ผู้ผลิตรถจากประเทศ จีน สามารถขายรถในเดือนมกราคม 2025 ได้ 1.794 ล้านคัน ลดลง 12.1% เมื่อเทียบกับยอดขายปี 2024 และลดลง 31.9% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ โดยมีอัตราการเติบโตเดือนต่อเดือนลดลง 31.9% ซึ่งถือเป็นรองเพียงอัตราการลดลง 41% ในเดือนมกราคม 2023 ตามข้อมูลของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน (CPCA) โดยในเดือนที่แล้วมียอดการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 2.107 ล้านคัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำนวนรถเก๋ง รถยนต์อเนกประสงค์ และรถยนต์อเนกประสงค์ที่จำหน่ายในร้านค้าปลีกอยู่ที่ 826,000 คัน 78,000 คัน และ 889,000 คัน ตามลำดับ ซึ่งมีการวิเคราะห์สาเหตุของยอดขายที่ลดลงเป็นเพราะ ปรากฏการณ์ลานีญาเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นฤดูหนาว ส่งผลให้ลมเหนือพัดผิดปกติในภาคตะวันออกของจีน ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนลดลงอย่างมีนัยสำคัญและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการรถยนต์ลดลง เนื่องจากเทศกาลตรุษจีนเร็วกว่าปีก่อน ผู้บริโภคจำนวนมากจึงตัดสินใจซื้อรถใหม่ในช่วงปลายปี 2024 แทนจะซื้อตอนต้นปี 2025
นอกจากนี้ แบรนด์จีนขายรถในประเทศได้ 1.09 ล้านคัน ลดลง 2% เมื่อเทียบปีต่อปีและ 33% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ส่วนแบรนด์ร่วมทุนกับผู้ผลิตชาติอื่นขายรถได้ 490,000 คัน ลดลง 27% เมื่อเทียบปีต่อปีและ 30% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนแบ่งยอดขายของแบรนด์เยอรมันอยู่ที่ 18.4% แบรนด์ญี่ปุ่นอยู่ที่ 13.4% และแบรนด์อเมริกันอยู่ที่ 5.3%
ส่วนยอดการผลิตของรถแบบ NEV พบว่ามีการผลิต 940,000 คัน เพิ่มขึ้น 25.8% เมื่อเทียบปีต่อปีและลดลง 35.1% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ยอดขายขายปลีกอยู่ที่ 744,000 คัน เพิ่มขึ้น 10.5% จากปีก่อน และลดลง 42.9% จากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 139,000 คัน เพิ่มขึ้น 29.4% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 13.9% จากเดือนก่อนหน้า คิดเป็น 36.6% ของการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ในจำนวนนี้ รถยนต์ไฟฟ้าล้วนคิดเป็น 66% ของการส่งออก NEV
ผู้ผลิตที่มีปริมาณการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสูงสุด ได้แก่ BYD (66,336 คัน), Tesla China (29,535 คัน), Chery (8,662 คัน), Changan (4,404 คัน), Dongfeng (3,546 คัน), Geely (3,495 คัน), SGMW (3,006 คัน), Great Wall Motor (2,878 คัน) และ SAIC (2,852 คัน)
ที่มา Carnewschina