BYD เปิดตัวระบบช่วยเหลือการขับขี่ “God’s Eye” ล่าสุด โดยตัวแทนของบริษัทเปิดเผยว่าการอัปเดตครั้งนี้จะทำให้รถยนต์ BYD ทุกคันสามารถติดตั้งเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ได้ รวมถึงรถยนต์แฮทช์แบ็ก BYD Seagull โดยระบบ God’s Eye ADAS จะมีให้เลือก 3 รุ่น โดยมีเซ็นเซอร์ LiDAR สูงสุด 3 ตัว
ประธาน BYD คุณ Wang Chuanfu เน้นย้ำว่า BYD มีฐานข้อมูลบนคลาวด์สำหรับรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน เขาอ้างว่าปัจจุบัน BYD มีวิศวกร 110,000 คน และ 5,000 คนในจำนวนนี้เป็นวิศวกรวิจัยและพัฒนาด้านการขับขี่อัจฉริยะ ในปี 2024 ระยะทางในการฝึก ADAS ของ BYD อยู่ที่ 72 ล้านกิโลเมตรต่อวัน ปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้ BYD พัฒนาระบบ “God’s Eye” รุ่นถัดไปได้ ประธาน BYD เน้นย้ำว่าในอีก 2 ถึง 3 ปีข้างหน้า การขับขี่อัจฉริยะจะกลายเป็นการกำหนดค่าที่ขาดไม่ได้สำหรับการซื้อรถยนต์
เปิดเผยว่าระบบ ADAS “God’s Eye” มีการจำแนกการขับขี่อัจฉริยะสามประเภท ระบบระดับเริ่มต้นเรียกว่า “God’s Eye C” ซึ่งอาศัยคลัสเตอร์กล้องสามตัวที่อยู่ด้านหลังกระจกหน้ารถ ในฐานะระบบ ADAS ระดับเริ่มต้น “God’s Eye C” จะถูกนำมาใช้ในรถยนต์ภายใต้แบรนด์ BYD ระบบนี้จะขับเคลื่อนโดยระบบ DiPilot 100 ซึ่งมีพลังการประมวลผลสูงสุดที่ 100 TOPS
องค์ประกอบฮาร์ดแวร์อื่นๆ ของ “God’s Eye C” ได้แก่ กล้อง 12 ตัว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัว และเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว กล้อง 12 ตัวเหล่านี้ประกอบด้วยกล้องมองหน้า 3 ตัว กล้องพาโนรามา 5 ตัว และกล้องมองรอบทิศทาง 4 ตัว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัวให้การรับรู้มุมที่ไม่ตาย 360 องศา เรดาร์ด้านหน้ามีระยะตรวจจับ 300 เมตร ความแม่นยำของเซ็นเซอร์เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัวคือ 1 ซม. และความแม่นยำในการจอดรถคือ 2 ซม. ถือว่ามีความละเอียดอย่างมาก

ระบบ ADAS ตัวที่สองของแบรนด์เรียกว่า “God’s Eye B” ซึ่งมีเซ็นเซอร์ LiDAR เพื่อปรับปรุงการรับรู้ของระบบช่วยเหลือการขับขี่ของรถยนต์ ระบบนี้จะขับเคลื่อนรถยนต์ Denza และ Fang Cheng Bao นอกจากนี้ รถยนต์เรือธงบางรุ่นภายใต้แบรนด์ BYD จะใช้ “God’s Eye B” เช่นกัน ระบบนี้ขับเคลื่อนโดยระบบ DiPilot 300 ที่มีกำลังประมวลผล 300 TOPS
ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับสูงสุดของ BYD เรียกว่า “God’s Eye A” ซึ่งใช้ LiDAR จำนวน 3 ตัวที่ขับเคลื่อนโดยระบบ DiPilot 600 ซึ่งมีพลังการประมวลผล 600 TOPS ระบบนี้จะขับเคลื่อนยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Yangwang ซึ่งเป็นแบรนด์หรูของ BYD
Wang Chuanfu ประกาศว่ารถยนต์ BYD ทุกคันจะติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ “God’s Eye” รวมถึงรุ่น BYD Seagull, BYD Qin Plus DM-i และ BYD Seal 05 DM-i ที่มีราคาต่ำกว่า 100,000 หยวน รถยนต์ BYD ทุกคันที่ติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ใหม่จะมีสถาปัตยกรรม Xuanji ที่มี “สมองหนึ่งอัน สองปลาย สามเครือข่าย และสี่โซ่” หมายความว่ารถยนต์แต่ละคันจะมีโปรเซสเซอร์กลาง, AI บนคลาวด์, AI ฝั่งยานพาหนะ, อินเทอร์เน็ตของยานพาหนะ, เครือข่าย 5G, เครือข่ายดาวเทียม, เซ็นเซอร์, การควบคุม, และการส่งข้อมูล ที่ทำได้รวดเร็วกว่าเดิมด้วยนะบบเครือข่าย
นอกจากนี้ สถาปัตยกรรม Xuanji ของ BYD จะเชื่อมต่อกับโมเดลขนาดใหญ่ Deepseek R1 เพื่อปรับปรุงความสามารถ AI ของยานพาหนะและคลาวด์ ระบบ “God’s Eye A” และ “God’s Eye B” รองรับฟังก์ชั่น NOA (การนำทางแผนที่) ในเมืองและทางหลวง ระบบ “God’s Eye C” ในปัจจุบันรองรับเฉพาะ NOA ความเร็วสูง อย่างไรก็ตาม คาดว่าระบบระดับเริ่มต้นจะรองรับฟังก์ชั่น NOA ในเมืองในระยะยาวผ่านการอัปเดตในอนาคต ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ใช้งานรถ BYD ที่จะมีระบบใหม่มาให้ใช้งานในอนาคต
ที่มา Carnewschina