ในประเทศไทย จำนวนการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในปี 2024 อยู่ที่ 70,137 คัน ลดลง 8.1% จากปีก่อน โดยมีอัตราเจาะตลาดอยู่ที่ 14.0% แต่ในบรรดาแบรนด์ที่ขายดีที่สุด 10 อันดับแรก มี 7 แบรนด์ที่เป็นแบรนด์จีน โดย BYD ครองอันดับหนึ่งในด้านยอดขายตลอดทั้งปี โดยมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าหนึ่งในสาม
ในเดือนตุลาคม 2022 BYD เปิดตัว Atto 3 ในประเทศไทยและเริ่มจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น ตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 BYD ครองแชมป์ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ในประเทศไทยเป็นเวลาอย่างน้อย 18 เดือน ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ 1 ใน 3 คันที่จำหน่ายในประเทศไทยมาจาก BYD
ทั้งนี้ แบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น เช่น ฮอนด้า โตโยต้า นิสสัน และอีซูซุ เคยครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ของไทยไปแล้วกว่า 90% กลยุทธ์ของ BYD คือการใช้ประเทศไทยเป็นช่องทางหลักในการเจาะตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เหลือ
ยกตัวอย่างเช่น สิงคโปร์ BYD ขึ้นแท่นแชมป์ยอดขายรวมเมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรก โดยเอาชนะโตโยต้าได้ ในปี 2024 ยอดขายของ BYD เพิ่มขึ้นจาก 1,416 คันในปี 2023 เป็น 6,191 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 14.4% ตามข้อมูลการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ของตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตซึ่งเผยแพร่โดย Land Transport Authority ของสิงคโปร์
โตโยต้าตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยยอดขายประจำปี 5,736 คัน บีเอ็มดับเบิลยู 5,042 คัน และเมอร์เซเดส-เบนซ์ 4,887 คัน ซึ่งอยู่ในอันดับสองและสี่ตามลำดับ นอกจากนี้ ยอดขายของเทสลาแตะระดับสี่หลักเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้นจาก 940 คันในปี 2023 เป็น 2,384 คัน
ไม่เพียงแต่ในสิงคโปร์ BYD ยังแซงหน้า Toyota ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในปี 2024ด้วยยอดขาย 2,223 คัน เพิ่มขึ้น 54% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในทางตรงกันข้าม ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ลดลง 30% เหลือเพียง 2,038 คัน
อ้างอิง CarNewsChina