สวนกระแสค่าย Mazda ทำลายสถิติยอดขายรถยนต์ในอเมริกา

Mazda กำลังทำผลงานได้ดีในตลาดสหรัฐฯ ในปี 2024 โดยมีแนวโน้มที่จะทำลายสถิติยอดขายสูงสุดตลอดกาล โดยคาดว่าจะทำยอดขายได้มากกว่า 400,000 คัน ถือว่ายอดเยี่ยมมากเพราะค่ายรถหลายบริษัทต่างมียอดขายที่ลดลง แต่ Mazda ในอเมริกากลับตรงกันข้าม

โดย Mazda ยังคงยึดมั่นในแนวทางของตนเอง โดยผลิตรถหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์สันดาป ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และในอนาคตจะมีรถ EV ล้วนออกวางขายด้วย

ในการให้สัมภาษณ์กับ Auto News นายมาซาฮิโระ โมโร ซีอีโอของ Mazda คาดการณ์ว่ายอดขายในสหรัฐฯ จะอยู่ที่ระหว่าง 410,000 ถึง 420,000 คันภายในสิ้นปี 2024 และอาจเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปี 2025 หรืออาจสูงถึง 450,000 คัน โดยจนถึงขณะนี้ Mazda มียอดขายรถรวม 384,181 คันในปีนี้ เพิ่มขึ้น 18.6% เมื่อเทียบกับปี 2023 เฉพาะเดือนพฤศจิกายนก็ทำลายสถิติด้วยยอดขาย 33,422 คัน ทำให้เป็นยอดขายเดือนพฤศจิกายนที่มียอดขายสูงสุดของแบรนด์จนถึงปัจจุบัน

ส่วนรถรุ่นที่ขายดีที่สุดคือ CX-5 มียอดขาย 8,733 คันในเดือนพฤศจิกายน และ 122,954 คันในปี 2024 รุ่นสำคัญอื่นๆ เช่น CX-30 (87,640 คัน) CX-50 (73,358 คัน) และ CX-90 (48,681 คัน) และยอดขาย Mazda 3 มียอดขายรวม 34,830 คันในปี 2024 ในขณะเดียวกัน MX-5 มียอดขายในเดือนพฤศจิกายนที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2006 โดยมียอดขาย 798 คันต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้น 76.9% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2023 ถือว่าเป็นอีกปีทองของ Mazda ที่สามารถทำยอดขายรถสวนกระแสได้

ที่มา Carscoops