เมื่อปลายปีที่แล้วทาง Volkswagen ได้บรรลุข้อตกลงกับสหภาพแรงงานของเยอรมนีในการลดจำนวนพนักงานมากกว่า 35,000 คนภายในปี 2030 ผ่านโปรแกรม “ลดค่าใช้จ่ายอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม” การตัดสินใจครั้งสำคัญนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานที่กว้างขึ้นเพื่อลดต้นทุนในส่วนของการทำตลาดในประเทศเยอรทัน
โดยแค่การ ต้นทุนในส่วนของคนงานเพียงอย่างเดียว จะทำให้ Volkswagen จะค่าใช้จ่ายลง 1.5 พันล้านยูโรต่อปี และต้นทุนรวมที่ประหยัดได้จะอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านยูโรต่อปีในระยะกลาง แม้จะมีการตัดสินใจครั้งสำคัญหลังจากการเจรจาเรื่องการลดคนงานจะผ่ายไปได้ด้วยดี แต่เห็นได้ชัดว่า Volkswagen จำเป็นต้องลดต้นทุนเพิ่มเติม
และมี Volkswagen ต้องลดค่าใช้จ่ายให้มากกว่านี้ หากต้องการกำไรเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้ โดยก่อนหน้านี้มีการลือว่า Volkswagen ต้องการให้บริษัทมีกำไรให้ได้ 6.5% ภายในปี 2026
เมื่อต้นเดือนนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าผู้ผลิตรถยนต์บางรายในจีนสนใจซื้อโรงงานของ VW ที่ไม่ได้ใช้งานในเยอรมนี การทำเช่นนี้จะทำให้บริษัทต่างๆ สามารถหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรของสหภาพยุโรป ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2024 ได้ ที่เพิ่มสูงขึ้นมากถึง 35.3% ในกรณีของ SAIC บริษัทของรัฐที่เป็นเจ้าของแบรนด์ MG “อังกฤษ” การขายโรงงานให้กับบริษัทในจีนจะช่วยให้ VW ปรับปรุงงบดุลได้อย่างรวดเร็ว แต่จะเสี่ยงต่อการสูญเสียยอดขายให้กับ EV ที่ถูกกว่าจากแบรนด์จีน เพราะจะสามารถใช้โรงงานในเยอรมันเพื่อเลี่ยงภาษีได้
ในสัปดาห์นี้ Oliver Blume ซีอีโอของ VW Group และ Porsche ยอมรับในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่านักลงทุนชาวจีนสนใจโรงงานในเยอรมนี เมื่อถูกถามว่าการขายโรงงานเป็นไปได้จริงหรือไม่ เขาได้เลี่ยงที่จะตอบตรง ๆ บอกแค่เพียงว่า “เป็นเรื่องดีเสมอเมื่อบริษัทต่างๆ ลงทุนในยุโรป … เรามีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในจีน และแน่นอนว่ามีการพูดคุยกัน แต่ยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการในตอนนี้ ก็ต้องรอดูกันว่าทาง Volkswagen จะสามารถขายโรงงานหรือหาทางลดต้นทุนเพื่อให้เกิดสถาพคล่องทางการเงินได้อย่างไรท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้น และสงครามการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้น
ที่มา Motor1